สวัสดีครับทุกคน ทีมงาน one31tv เว็บไซต์ข่าวสารวงการมือถือในไทยที่อัปเดตทุกความเคลื่อนไหว วันนี้ผมจะชวนทุกคนมาส่องสมาร์ทโฟนที่ฮือฮาที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา นั่นก็คือ Asus ROG Phone 9 Series ครับ หลังจากที่เราได้แต่เฝ้ารอและลุ้นกับฟีดแบ็กจากต่างประเทศกันมาสักพักใหญ่ ตอนนี้ก็ถือเป็นโอกาสดีที่ผู้ที่มองหามือถือประสิทธิภาพสูงในบ้านเราจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดยอดบนมือถือที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นครับ
Asus ROG Phone 9 Series ในไทย: เจาะลึกสเปคทุกรุ่น พร้อมข้อมูลการวางจำหน่ายและราคาล่าสุด!
พอได้ยินชื่อซีรีส์ ROG Phone หลายคนก็คงนึกถึงมือถือที่ “แรงสุดๆ” เน้นใช้งานหนักๆ โดยเฉพาะเกมใช่ไหมครับ แต่สำหรับ Asus ROG Phone 9 Series ในปีนี้ ผมบอกได้เลยว่าทาง Asus ไม่ได้แค่เน้นความแรงอย่างเดียวครับ พวกเขายกระดับมือถือตระกูลนี้ให้กลายเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่ครบเครื่องจริงๆ ทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ความสามารถรอบด้านในการใช้งานทั่วไป และดีไซน์ที่ลงตัวครับ มันคือการผสานพลังของเครื่องที่พร้อมลุยงานหนักเข้ากับความสะดวกสบายของมือถือในชีวิตประจำวันได้อย่างน่าทึ่งครับ
มาดูกันที่สเปคเด่นๆ ของ Asus ROG Phone 9 Series กันดีกว่าครับ ผมจะแยกเป็นหัวข้อให้เห็นภาพชัดๆ ว่าแต่ละจุดมีอะไรน่าสนใจบ้าง:
📱 ขุมพลังขั้นสุดยอด (Performance): หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อน ROG Phone 9 Series ทุกรุ่นคือชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุดและทรงพลังที่สุดในตอนนี้ นั่นคือ Qualcomm Snapdragon 8 Elite Mobile Platform ครับ (บางทีก็อาจจะเรียกกันว่า Snapdragon 8 Gen 4 นะครับ แล้วแต่แหล่งข้อมูลจะใช้ชื่ออะไร) แค่ชื่อนี้ก็การันตีได้เลยว่ามันแรงแบบสุดๆ ครับ ไม่ว่าคุณจะเอาไปเล่นเกมกราฟิกโหดๆ เปิดหลายๆ แอปพร้อมกัน หรือทำงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูงๆ ก็ลื่นไหลไม่มีสะดุดครับ เพราะประสิทธิภาพการประมวลผลของ CPU และ GPU Adreno 830 ตัวนี้มันจัดเต็มจริงๆ ครับ
🖥️ หน้าจอที่ลื่นไหลและสวยงาม (Display): ประสบการณ์การมองเห็นที่ดีก็เป็นสิ่งสำคัญใช่ไหมครับ ROG Phone 9 Series จัดเต็มด้วยหน้าจอแบบ AMOLED LTPO ขนาด 6.78 นิ้วครับ หน้าจอแบบนี้ไม่ใช่แค่แสดงผลได้สวยคมชัด สีสันสดใสสมจริง ดำสนิท คอนทราสต์จัดจ้านเท่านั้นนะครับ แต่มันยังมาพร้อมอัตรารีเฟรชสูงสุดถึง 185Hz สำหรับรุ่น ROG Phone 9 และ 9 Pro และ 165Hz สำหรับรุ่น 9 FE ครับ ความพิเศษของ LTPO คือมันปรับอัตรารีเฟรชได้อัตโนมัติตามคอนเทนต์ที่เรากำลังดูครับ ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้ด้วย แถมความสว่างสูงสุดยังพุ่งไปถึง 2500 nits ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้จะใช้งานกลางแดดจ้าครับ
📸 กล้องที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด (Camera): ปกติแล้ว มือถือที่เน้นประสิทธิภาพสูงมักถูกมองว่ากล้องไม่ค่อยดีเท่าไหร่ใช่ไหมครับ แต่ ROG Phone 9 Series ลบภาพจำนั้นได้หมดเลยครับ เพราะพวกเขากล้าอัปเกรดเรื่องกล้องอย่างจริงจังครับ มาพร้อมกล้องหลัก 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX890 พร้อม ระบบกันสั่น Gimbal OIS ครับ สำหรับรุ่น Pro นั้นจะยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก เพราะมีเลนส์ Telephoto ความละเอียด 32MP ที่มี OIS และ Optical Zoom 3x เพิ่มเข้ามาด้วยครับ ส่วนกล้อง Ultrawide 13MP และ Macro 5MP ก็ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีครับ และกล้องหน้าความละเอียด 32MP ก็ให้ภาพเซลฟี่ที่คมชัด รายละเอียดครบครันครับ
🔋 แบตเตอรี่ที่อึดทน พร้อมชาร์จไว (Battery & Charging): เรื่องแบตเตอรี่ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับมือถือแรงๆ แบบนี้ครับ ROG Phone 9 และ 9 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5800mAh ซึ่งถือว่าอึดเหลือเฟือสำหรับการใช้งานตลอดวัน หรือใช้งานหนักๆ ได้สบายๆ ครับ ส่วนรุ่น 9 FE จะมีแบตเตอรี่ขนาด 5500mAh ครับ และที่สำคัญคือทุกรุ่นรองรับการชาร์จเร็ว 65W ทำให้ชาร์จเต็มได้ในเวลาอันรวดเร็วครับ แค่เสียบชาร์จแป๊บเดียวก็กลับมาลุยต่อได้แล้วครับ นอกจากนี้ ROG Phone 9 และ 9 Pro ยังรองรับการชาร์จไร้สาย 15W เพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขั้นในยุคที่การชาร์จไร้สายเริ่มเป็นมาตรฐานของมือถือระดับพรีเมียมครับ
🌬️ ระบบระบายความร้อนที่เหนือชั้น (Cooling System): จุดเด่นที่ขาดไม่ได้ของ ROG Phone คือเรื่องระบบระบายความร้อนครับ ถึงแม้ตัวเครื่องจะถูกออกแบบให้บางลง แต่ระบบระบายความร้อนก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้นครับ เพื่อให้ชิปเซ็ตทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้จะใช้งานหนักๆ เป็นเวลานาน เครื่องก็ยังคงคุมอุณหภูมิได้ดีครับ ไม่มีอาการร้อนจนจับไม่ได้เลยครับ และยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม AeroActive Cooler X Pro เพื่อประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูงสุดได้อีกด้วยครับ
✨ ดีไซน์ที่ผสมผสานความดุดันและความพรีเมียม (Design): ROG Phone 9 Series ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ ROG ที่ดูดุดัน ล้ำสมัย และบ่งบอกถึงความทรงพลังได้อย่างชัดเจนครับ แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความเรียบหรูที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัวครับ ไม่ได้ดูเป็นมือถือที่เน้นการเล่นเกมจ๋าจนเกินไปเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ นอกจากนี้ตัวเครื่องยังได้รับการรับรองมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานและความอุ่นใจในการใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้นด้วยครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำกระเด็นหรือฝุ่นเข้าอีกต่อไปครับ
สรุปสเปคย่อ Asus ROG Phone 9 Series (แต่ละรุ่น)
-
ROG Phone 9 FE:
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite Mobile Platform
- หน้าจอ: 6.78 นิ้ว AMOLED LTPO, รีเฟรชเรตสูงสุด 165Hz, ความสว่าง 2500 nits
- กล้องหลัง: หลัก 50MP Sony IMX890 (Gimbal OIS), Ultrawide 13MP, Macro 5MP
- กล้องหน้า: 32MP
- แบตเตอรี่: 5500mAh
- ชาร์จเร็ว: 65W
- กันน้ำกันฝุ่น: IP68
- RAM/ROM (ตัวอย่าง): 16GB / 256GB
-
ROG Phone 9 Pro:
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite Mobile Platform
- หน้าจอ: 6.78 นิ้ว AMOLED LTPO, รีเฟรชเรตสูงสุด 185Hz, ความสว่าง 2500 nits
- กล้องหลัง: หลัก 50MP Sony IMX890 (Gimbal OIS), Telephoto 32MP (OIS, Optical Zoom 3x), Ultrawide 13MP, Macro 5MP
- กล้องหน้า: 32MP
- แบตเตอรี่: 5800mAh
- ชาร์จเร็ว: 65W, ไร้สาย 15W
- กันน้ำกันฝุ่น: IP68
- RAM/ROM (ตัวอย่าง): 16GB / 512GB
-
ROG Phone 9 Pro Edition:
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite Mobile Platform
- หน้าจอ: 6.78 นิ้ว AMOLED LTPO, รีเฟรชเรตสูงสุด 185Hz, ความสว่าง 2500 nits
- กล้องหลัง: หลัก 50MP Sony IMX890 (Gimbal OIS), Telephoto 32MP (OIS, Optical Zoom 3x), Ultrawide 13MP, Macro 5MP
- กล้องหน้า: 32MP
- แบตเตอรี่: 5800mAh
- ชาร์จเร็ว: 65W, ไร้สาย 15W
- กันน้ำกันฝุ่น: IP68
- RAM/ROM (ตัวอย่าง): 24GB / 1TB
- เพิ่มเติม: มาพร้อมพัดลม AeroActive Cooler X Pro ในกล่อง
วันที่จำหน่ายและราคาล่าสุดในไทย
สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังรอคอยว่า Asus ROG Phone 9 Series จะวางจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่ และราคาจะเป็นอย่างไรบ้าง ผมมีข่าวดีมาบอกครับ Asus ROG Phone 9 Series ได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วครับ ตั้งแต่ วันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาในงาน Thailand Mobile Expo 2025 ถือว่าเข้ามาในตลาดบ้านเราค่อนข้างเร็วหลังจากเปิดตัวในตลาดโลกเลยทีเดียวครับ โดยเพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Jaymart, Banana IT, TG Fone หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ ได้เลยครับ
ส่วนเรื่องราคา ณ ปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) นะครับ Asus ROG Phone 9 Series มีราคาเริ่มต้นดังนี้:
- ROG Phone 9 FE (16GB RAM / 256GB ROM): ราคาประมาณ 27,990 – 29,990 บาท
- ROG Phone 9 Pro (16GB RAM / 512GB ROM): ราคาประมาณ 37,990 – 39,990 บาท
- ROG Phone 9 Pro Edition (24GB RAM / 1TB ROM): ราคาประมาณ 49,990 บาท
ราคานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้าในช่วงเวลานั้นๆ นะครับ แนะนำให้ลองสอบถามจากร้านค้าโดยตรงเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและอัปเดตที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ
บทสรุป: Asus ROG Phone 9 Series คุ้มค่าหรือไม่?
หลังจากที่ได้เจาะลึกสเปคและข้อมูลต่างๆ ของ Asus ROG Phone 9 Series มาแล้ว ผมก็พอจะสรุปได้เลยว่าสมาร์ทโฟนตระกูลนี้ยังคงไม่ทำให้ผู้ที่มองหามือถือประสิทธิภาพสูงต้องผิดหวังครับ จุดเด่นหลักๆ ที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์คือประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ด้วยชิปเซ็ตตัวท็อปและระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้สามารถใช้งานหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด นอกจากนี้ หน้าจอที่สวยงามและลื่นไหล รวมถึงแบตเตอรี่ที่อึดทนพร้อมชาร์จไว ก็ยิ่งเสริมประสบการณ์การใช้งานให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีกครับ
สิ่งที่ ROG Phone 9 Series ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด คือการพัฒนาในด้านกล้องถ่ายภาพครับ ซึ่งเคยเป็นจุดที่หลายคนอาจจะมองว่ามือถือประเภทนี้ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร แต่ตอนนี้ ROG Phone 9 Series ก็พร้อมแล้วที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาก็สามารถเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องสำหรับชีวิตประจำวันได้เช่นกันครับ ด้วยดีไซน์ที่ปรับให้ดูเรียบหรูขึ้นแต่ยังคงความดุดันตามสไตล์ ROG รวมถึงการเพิ่มมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ก็ยิ่งทำให้ ROG Phone 9 Series เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการมือถือประสิทธิภาพสูงในทุกๆ ด้านครับ
ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าใคร พร้อมทั้งฟีเจอร์ที่ครบครันและน่าเชื่อถือ Asus ROG Phone 9 Series ถือเป็นตัวเลือกที่น่าลงทุนมากๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น ROG Phone 9 FE ที่เข้าถึงง่ายขึ้น หรือรุ่น Pro และ Pro Edition ที่จัดเต็มประสิทธิภาพและฟีเจอร์สูงสุด ผมเชื่อว่าสมาร์ทโฟนซีรีส์นี้จะตอบโจทย์ความต้องการและมอบประสบการณ์ที่คุ้มค่าให้กับคุณได้อย่างแน่นอนครับ ทางทีมงาน one31tv หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับทุกท่านนะครับ เราได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดนี้มาให้ด้วยความตั้งใจจริงครับ
เครดิตบทความและข้อมูลเพิ่มเติมจาก:
