สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เว็บไซต์ one31tv.online กลับมาพร้อมสาระน่ารู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอที และมือถืออีกครั้ง คราวนี้ทีมงานอยากพาทุกคนมาลองทำความเข้าใจกับวิธีแก้ปัญหา “เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติด” ซึ่งสามารถตรวจสอบและแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง
1. ตรวจสอบปลั๊กไฟและสายไฟ
ปัญหาคลาสสิกที่หลายคนเจอเลยคือเรื่องปลั๊กไฟหรือสายไฟเสื่อม สายหลวม หรือเสียบไม่แน่น ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน วิธีเช็กคือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นออกก่อน แล้วลองเสียบคอมเข้ากับเต้ารับโดยตรง เพื่อดูว่าปัญหามาจากปลั๊กพ่วงหรือไม่
หากยังไม่ติด อาจเป็นไปได้ว่าสายไฟชำรุด แนะนำให้ลองเปลี่ยนสายใหม่ดูครับ
| สาเหตุ | แนวทางแก้ไข |
| ปลั๊กไฟแตกหรือหลวม | เปลี่ยนปลั๊กใหม่หรือเสียบให้แน่น |
| สายไฟมีปัญหา | ลองเปลี่ยนสายไฟเส้นใหม่ |
2. ไฟบ้านตกหรือดับบ่อย
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คอมดับหรือเปิดไม่ติดก็คือปัญหาไฟฟ้า ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่ไฟตกหรือดับบ่อย เครื่องคอมก็เสี่ยงเสียหาย วิธีแก้เบื้องต้นคือใช้เครื่องสำรองไฟ (UPS) เพื่อช่วยให้แรงดันไฟคงที่ และยังทำงานต่อได้สักระยะเวลาที่ไฟดับจริง ๆ
UPS ราคาหลักพันสามารถช่วยป้องกันไฟกระชากหรือไฟตกได้ แต่ถ้าอยากได้รุ่นที่มีระบบป้องกันครบ ๆ ราคาก็อาจไปถึงหลักหมื่นเลยทีเดียวครับ
3. ตรวจสอบพาวเวอร์ซัพพลาย (PSU)
ถ้าไฟบ้านปกติ แต่คอมยังไม่ติด อาจเป็นที่ PSU เสียหาย ให้ลองเปลี่ยนสายไฟ หรือตรวจสอบสาย 24 พินที่เสียบเมนบอร์ดว่าหลวมหรือไม่ ถ้ายังไม่ติด อาจต้องเปลี่ยน PSU ใหม่
4. ดูไฟ Debug LED บนเมนบอร์ด
เมนบอร์ดหลายรุ่นจะมีไฟ LED แสดงสถานะเพื่อบอกว่าปัญหาอยู่ที่ไหน เช่น CPU, RAM หรือการ์ดจอ ถ้าไฟค้างที่จุดใดจุดหนึ่ง ให้ลองถอดชิ้นส่วนนั้นออกแล้วใส่ใหม่ หรือเปลี่ยนไปใช้ชิ้นอื่นทดสอบ เช่น ถอดแรมเหลือแค่ 1 แถว หรือลองใช้การ์ดจอออนบอร์ด
ไฟ Debug LED คือระบบที่ช่วยบอกว่าคอมติดปัญหาที่ไหน เช่น CPU, RAM, การ์ดจอ หรือส่วนอื่น ๆ ถ้าไฟขึ้นรหัส เช่น A0, B5 หรือ 99 ให้เปิดคู่มือเมนบอร์ดเพื่อดูว่าแต่ละรหัสหมายถึงอะไร
| อาการ | วิธีแก้ |
| เครื่องไม่บูต | ถอดอุปกรณ์ออกทีละชิ้นแล้วใส่กลับ |
| ไฟ Debug LED ค้าง | เช็กคู่มือเมนบอร์ดว่าปัญหาอยู่ที่ชิ้นไหน |
5. รีเซ็ตค่า BIOS
บางครั้งการตั้งค่า BIOS ผิดพลาด เช่น ปรับค่าแรมหรือซีพียูไม่เหมาะสม ก็ทำให้เครื่องไม่ติด วิธีแก้คือรีเซ็ต BIOS ให้กลับเป็นค่าเริ่มต้น ใช้จัมเปอร์ Clear CMOS หรือถอดแบตเตอรี่เมนบอร์ดออกสักพักแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่
6. ความร้อนสูงเกินไป
หากซีพียูร้อนเกินค่าที่กำหนด ระบบจะตัดการทำงานทันทีเพื่อความปลอดภัย วิธีแก้คือทำความสะอาดพัดลม เปลี่ยนซิลิโคนซีพียู หรืออัปเกรดชุดระบายความร้อนใหม่ ค่า Tj Max ของซีพียูส่วนใหญ่จะอยู่ราว ๆ 100 องศาเซลเซียส แต่ควรตั้งให้ตัดการทำงานที่ต่ำกว่านั้น
Tj Max หรือ Tjunction Max คืออุณหภูมิสูงสุดที่ซีพียูจะทำงานได้ ถ้าเกินระบบจะลดความเร็วหรือปิดเครื่องทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย
7. ปัญหาที่เมนบอร์ด
ถ้าลองมาหมดแล้วยังไม่ติด ปัญหาอาจอยู่ที่เมนบอร์ด เช่น ขาซีพียูงอ สล็อตแรมชำรุด หรือวงจรไฟเสีย ซึ่งตรงนี้ควรนำไปให้ร้านซ่อมที่เชื่อถือได้ตรวจสอบ เพราะต้องใช้เครื่องมือและอะไหล่เฉพาะในการแก้ไข
